อิตาลี เมือง ฟลอเรนซ์...
นทียืนอยู่สถานีรถไฟกรุงโรม เพื่อต่อรถไฟไปยังเมืองฟลอเรนซ์ บ่ายโมงกว่า ๆ ดูจากในตารางรถไฟใช้เวลาเกือบ 2 ชั่วโมง
อิตาลีเข้าฤดูใบไม้ผลิ สองข้างทางคือทุ่งดอกมัสตาร์ดออกดอกสีเหลืองเป็นทุ่งกว้างสุดสายตา สลับกับทุ่งหญ้าสีเขียว บนขบวนรถไฟผู้โดยสารค่อนข้างน้อยจะนั่งจะนอนตรงไหนได้ตามใจชอบ นทีเลือกนั่งริมหน้าต่างดื่มด่ำกับวิวสองข้างทางไปเรื่อย ๆ เผลอแป๊บเดียว ก็มาถึงเมืองฟลอเรนซ์
ผู้คนคึกคักสมกับเป็นเมืองท่องเที่ยว แค่ก้าวขาออกจากสถานีรถไฟ Santa Maria Novella ก็พบเจอกับโบสถ์หินอ่อนสีขาวสลับเป็นลายกับสีเขียวที่มีชื่อเดียวกันกับชื่อสถานีรถไฟ ศิลปะแบบเรอเนสซองส์ ความแตกต่างศิลปะในแต่ละยุค จำไม่ได้แล้วว่าคืออะไร ที่แน่ ๆ ที่นี่มีรูปปั้นของเดวิด ที่ควรจะไปดูสักครั้ง ทว่าตอนนี้คงต้องไปตามหาพ่อเดวิดในชีวิตจริงก่อนจะมืดค่ำ ถึงจะแอบกังวลอยู่มาก ถ้าหากเขามีคนอื่นไปแล้วจะทำยังไง เวลาตั้งหนึ่งปี อะไรก็เปลี่ยนแปลงไปได้เสมอ โดยเฉพาะใจของคน แต่ก็ตัดสินใจดั้นด้นมาถึงที่นี่ นทีคลี่กระดาษในมือออกมาดู ถนน S ซอย K ต้องนั่งรถบัสเพื่อไปถนนตรงนี้ น่าจะใช้เวลาเกือบ20นาทีกว่าจะถึง
หลังจากลงรถ นทีโทรเข้าไปในอพาร์ตเมนต์ที่ภานุพงศ์เช่า เสียงของคนรับน่าจะเป็นวัยคุณป้า ยังดีที่พอพูดอังกฤษได้ทำให้ไม่ลำบากมากนัก คงเป็นเพราะอพาร์ตเมนต์มีคนต่างชาติมาเช่ากันอยู่เรื่อย ๆ จึงทำให้การสื่อสารเป็นไปได้ง่ายมากขึ้น ไม่งั้นคงจะลำบากภาษาอิตาเลียนที่พูดเป็นอยู่ประโยคเดียว Ti amo
คุณป้าเจ้าของอพาร์ตเมนต์บอกว่า ให้เดินมาจนสุดทางแยกแล้วเลี้ยวขวาเดินมาอีกราว ๆ 50 เมตร ก็จะเจอกับอพาร์ตเมนต์ที่เป็นอิฐสีไข่ไก่ นทีมองไปทางไหนก็เห็นมีแต่อิฐสีไข่ไก่เหมือน ๆ กันหมด จุดเด่นคือประตูไม้บานใหญ่ มีดอกกุหลาบสีขาวแซมกุหลาบแดงประดับอยู่หน้าอพาร์ตเมนต์ คุณป้าพยายามอธิบายให้นทีเข้าใจให้มากที่สุดด้วยภาษาอังกฤษสำเนียงแปร่ง ๆ แบบอิตาเลียน
VOCÊ ESTÁ LENDO
ตกบ่วงรักเชฟสุดหล่อ
Romanceฉัน นที! ไม่มีทางรักนาย! ผมจะคอยดู... [กำลังอยู่ในช่วงรีไรท์นะคะ ^^ ]