"ภาคิน ไพศาลศิขริน ทายาทคนเดียวของนายหัว เมธ ไพศาลศิขริน เจ้าของท่าเรือสินค้า สัปทานรังนกรายใหญ่ของจังหวัดกระบี่และพังงา มีธุรกิจโรงแรม ร้านเครื่องประดับอัญมณี ที่ลูกชายก็คือนายภาคิน ดูแลแบบเต็มตัว ผมคิดว่าท่านอย่าไปเล่นด้วยเลยครับไม่คุ้ม นายภาคินสนใจคุณนทีมานาน ตั้งแต่คราวที่ไปออกแบบโรงแรมให้ที่ภูเก็ต"
ช่วงที่เขากับนทีเลิกกัน เขาพอจะรู้ว่าเจ้าตัวมีผู้ชายมาติดพันหลายคน แต่ที่เห็นคบนานที่สุดน่าจะเป็นสุดเขตต์หนุ่มรุ่นน้อง และดูเหมือนตอนนี้จะเลิกกันไปแล้ว ในตอนนั้นเขาเลือกอนาคตมากกว่าความรัก
"ถ้ามันไม่มาวุ่นวายกับนที ฉันก็จะไม่ยุ่ง แล้วไอ้เชฟนั่นล่ะ"
"หลังจากร้าน ณ ธารา ปิดนายภานุพงศ์มาเปิดร้านพาสต้าอยู่ติดกับร้าน ณ ธารา และดูเหมือนคุณนทีจะเจอกับเขาแล้ว"
"ดูท่าจะชอบนที ตามตื้อไม่เลิก ส่งใบหย่าไปให้คุณวิภาดาหรือยัง" บุรินทร์เอ่ยถามเหมือนไม่สนใจว่าเป็นเรื่องสำคัญที่ต้องคิดให้ถี่ท้วน
"ผมว่าท่านบรรพตคงไม่พอใจ ชะลอเรื่องหย่าไว้ก่อนดีกว่าไหมครับ ตอนนี้ยังไม่เข้าที่เข้าทาง"
"ไอ้แก่นั้นรักพรรคมากกว่าลูกสาวตัวเองซะอีก ดีเหมือนกัน นทีจะไปเขาใหญ่อีกเมื่อไหร่"
"พรุ่งนี้ครับ"
"อืม...ดีพรุ่งนี้ฉันจะไปเขาใหญ่ลงพื้นที่เยี่ยมชาวบ้านแถวนั้น"
"อาพงศ์...~" เจ้าเขื่อนกับต้นน้ำ วิ่งเข้าไปหาผู้เป็นอาที่กำลังเตรียมของสำหรับเปิดร้านตอน11โมงเช้า
"อ้าว เจ้าเขื่อนต้นน้ำ"
เขาย่อกายลงกอดหลานแฝดที่วิ่งเข้ามาหา หันไปยิ้มให้กับนทีที่กำลังเดินเข้ามา ร่างเล็กกับเสื้อยืดลายขวางขาวดำ กางเกงยีนส์ทรงเดฟสีดำกับรองเท้าคอนเวิร์ส ดูเท่ในแบบสไตล์เจ้าตัว เขาไม่แปลกใจที่มีคนสนใจนทีเยอะ เจ้าตัวมีเสน่ห์น่ามองชวนให้หลงรักได้ง่าย ๆ
"คิดว่าคุณจะใจดำไม่พาเด็กๆมาให้เจอ"
เขาพลางหันไปขยิบตาแบบรู้กันกับเด็กๆ ที่เคยเจอกันก่อนหน้านี้
"ไปเที่ยวกันไหม? ไปเขาดินกัน"นทีเอ่ยชวนขึ้น
"พายุคงจะเข้าหนัก คุณนทีจะไปเที่ยวเขาดิน"เขาพูดพลางยิ้มขำ
"ทำไม!? นี่ฉันอุตส่าห์ตื่นแต่เช้านะ"
"เช้าของคุณ? นี่มันจะ10โมงแล้วนะครับคุณนที..."
"ก็เพราะใครล่ะ! เมื่อคืนกว่าจะได้กลับไปนอน"นทีพูดเสียงอ้อมแอ้มกลัวหลานๆจะได้ยิน
"หืมม เพราะผมเหรอ ว่าแต่...ปากยังบวมอยู่เลยนะ"
นทีรีบเม้มริมฝีปากเข้าหากันทันที เขาลุกขึ้นยืนเต็มความสูงของตัวเอง คนตัวเล็กที่ยืนอยู่ต้องเงยหน้าขึ้นตามความสูงของเขา ความสูงที่แตกต่าง เขาโน้มกายพลางยื่นหน้าเข้ามาใกล้ ๆ นทีต้องเบี่ยงตัวหลบเมื่อเขายื่นใบหน้าหล่อๆเข้ามา แววตาสีน้ำตาลเข้มมีประกายแวววับอยู่ภายใต้กรอบดวงตายาวรีที่จ้องมองไม่วางตา ทำคนถูกมองมากๆก็ให้รู้สึกเขินขึ้นมา รอยยิ้มละมุนจุดขึ้นที่มุมปากของเขา
ภานุพงศ์ขอเวลาสำหรับจัดเตรียมของชั่วโมงหนึ่ง เขาออกมาพร้อมกับตะกร้าสีฟ้า ในนั้นอัดแน่นไปด้วยของกิน เขาหิ้วตะกร้าสีฟ้าไปเก็บที่ท้ายรถก่อนจะมานั่งข้างนทีที่เป็นคนขับ เด็กๆสนุกสนานกับการที่จะไปเที่ยว
"อาพงศ์นั่นตัวอะไรคะ"
ต้นน้ำขี่อยู่บนคอของผู้เป็นอาถามเสียงเจื้อยแจ้วยามเมื่อสงสัยว่าตัวนั้นชื่ออะไร ภานุพงศ์ก็จะตอบคำถามเด็กๆได้เสมอ ไม่มีเบื่อถึงแม้ครั้งนี้จะเป็นครั้งที่สองที่เด็กๆเคยมากันแล้วก็ตาม ในบางครั้งเด็กๆจะไปยืนเกาะดูอย่างสนใจภานุพงศ์ก็จะยอบกายอยู่ข้างเด็กๆ นทีจับมือจูงเจ้าเขื่อนคอยแอบมองเขาอยู่เงียบๆ รู้สึกอุ่นหัวใจและปลอดภัยเวลาเขาอยู่ด้วย
"คุณเหนื่อยไหม?" ภานุพงศ์หันมาถามคนตัวเล็กที่เดินตามหลังบ้าง หรือไม่ก็เดินตีคู่กันมา นทีพยักหน้า
"เราไปปูเสื่อนั่งกันตรงนู้นไหม?"
ภานุพงศ์ชี้ไปตรงต้นไม้ต้นใหญ่ที่อยู่ริมสระน้ำ
"อืม...ก็ดีเหมือนกันเดินจนเมื่อยขาขึ้นมาแล้วล่ะ"
"รอแป๊บนึงนะครับ เดี๋ยวผมไปเอาเสื่อกับตะกร้าของทานเล่นก่อน" เขาหายไปที่รถไม่นานก็กลับมาพร้อมตะกร้าสีฟ้าทรงสี่เหลี่ยมมีฝาปิดด้านบน เขาจัดแจงปูเสื่อลงกับพื้นหญ้าสีเขียว
"เอาละ เด็กๆนั่งได้เลย" ภานุพงศ์หยิบเอากล่องแซนวิส ผลไม้ ขนม น้ำส้มที่คั้นเองออกมาให้เด็กๆ พร้อมกับหยิบเจลล้างมือออกมากดให้กับเจ้าเขื่อน ต้นน้ำ ล้างมือ หยิบกระดาษทิชชู่เช็ดอีกครั้งเป็นอันเสร็จ นทีนั่งมองดูเขาดูแลหลานๆเห็นแล้วก็อดที่จะขำกับเขาไม่ได้
"นายควรให้เด็กๆมีภูมิคุ้มกันบ้าง นี่อะไรสะอาดไปซะหมด"
"คุณก็ด้วย ต้องล้างมือ" พูดพร้อมกับฉวยมือเล็กมาแล้วกดเจลใส่มือให้นที เขาลูบไล้มือเล็กไปมา
"จะลูบอีกนานไหม?"
"บริการพิเศษนะครับคุณนที"
"หรอออ...รู้สึกเปลืองตัวจัง"
"อร่อยจังฮะอาพงศ์" เจ้าเขื่อนหยิบแซนวิสขึ้นมากัดกินอย่างอร่อย
"เด็กๆชอบไหม?"
"ชอบค่ะ"
"ชอบฮะ"
"นั่งให้หายเหนื่อยแล้วเย็นๆ เราไปหาอะไรอร่อยๆกินกันนะ ดีไหม?"นทีเอ่ยชวน
"ดีฮะ"
"ดีค่าา"
ยามเมื่อเด็กแฝดขานรับพร้อมๆกันทำเอาคนเป็นอากับน้าอดที่จะยิ้มเอ็นดูกับความน่ารักไม่ได้ สงสารในความโชคร้ายของเด็กๆที่ขาดพ่อแม่ทั้งคู่ นทีพยายามทำให้ดีที่สุดเท่าที่จะทำได้ โชคดีที่มีเขาคอยอยู่ช่วยเหลือ
"ต้นน้ำอยากให้อาพงศ์ไปอยู่ที่บ้านเราค่ะน้าที"
"ใช่ฮะ เขื่อนก็เหมือนกัน" ภานุพงศ์หันไปมองนทีแล้วยิ้ม
"บ้านเรามีแค่สองห้องเอง อีกหน่อยเขื่อนกับต้นน้ำก็โตขึ้น ห้องก็จะเล็กลงให้อาพงศ์ไปนอนไม่ได้หรอก"
"น้าทีนอนคนเดียว น้าทีก็ให้อาพงศ์ไปนอนด้วยได้ใช่ไหมคะ เหมือนที่พี่เขื่อนก็นอนกับต้นน้ำ"
"จริงด้วย ให้อาไปนอนกับน้าที" ภานุพงศ์ช่วยสนับสนุนความคิดเห็นของเด็กๆพลางพยักหน้าเห็นด้วยสุดๆ
"อาพงศ์ตัวใหญ่ ก็แย่งเตียงน้าไปนอนหมดสิไม่ได้หรอก" นทีรีบสรุปตัดบทก่อนจะถูกคนตัวสูงร่วมมือกับเด็กๆต้อนให้เขาจนมุม
"เด็กๆดูเป็ดบินสิ"
อยู่ๆภานุพงศ์ก็เรียกเด็กๆพร้อมกับชี้นิ้วให้เด็กๆดูเป็ดบินได้อย่างที่บอก นทีเองก็หันตามนิ้วของคนตัวสูง มือใหญ่รีบโน้มใบหน้าของนทีให้หันกลับมา เขารีบจูบที่ริมฝีปากเรียวบางทันที
"อื้ออ..."
"อาพงศ์คะ ไม่เห็นเป็ดบินได้เลยค่ะ"
"ใช่ฮะมีแต่ว่ายน้ำอยู่ตรงนู้น"
หลานๆหันกลับมาถามผู้เป็นอา เขาปล่อยจูบนทีพลางยิ้มเจ้าเล่ห์ให้ พวงแก้มใสของจอมดื้อที่ขึ้นสีเลือดฝาดระเรื่อ
"มีสิ อายังเห็นเลย"
เด็กๆทำสีหน้างงๆมองเท่าไหร่ก็ไม่เห็นเป็ดบินได้ของผู้เป็นอา
"ให้ฉันค้างมาสองครั้ง ทีงี้มาลักจูบได้ตลอด มันใช่เวลามาจูบไหมห๊ะ! นี่ถ้าเด็กๆเห็นจะว่ายังไง!" นทีทำหน้าดุกดเสียงต่ำพูดเบาๆให้กับคนตัวสูงที่กำลังยิ้มหยอกเย้าตัวเองอยู่
"อยากได้ผม คุณนทีก็ไปเคลียร์กับหนุ่มๆให้หมดก่อนสิ เรื่องอะไรผมจะยอมง่ายๆ"
"อ้อ ที่พูดเมื่อคืนนี้โกหกช่ะ!"
"ผมพูดจริงๆ รอคุณได้เสมอ" ส่งนัยน์ตาหวานเชื่อมมาให้
"ฉัน...ก็ไม่ได้มีใครสักหน่อย"
"ผมรู้นะ มีคนตามจีบคุณอยู่ วันก่อนยังมาชะเง้ออยู่หน้าร้าน ณ ธารา อยู่เลย"
นทีทำหน้างง ใครกันมาชะเง้อ นทีครุ่นคิดไม่รู้จริงๆว่าเป็นใคร ช่วงนี้ไม่ได้อ่อยใครอย่างที่คนตัวสูงกล่าวอ้าง
"ไม่รู้เว้ย! ตอนเนี่ย!โสดสุดๆ จะแห้งตายอยู่ล่ะ!"
ภานุพงศ์หรี่ตามองดูคนที่บอกว่าไม่มีใคร มือใหญ่เอื้อมจับมือเล็กมากุมไว้ พลางล้มตัวลงนอนขยับเคลื่อนศีรษะเข้าไปนอนหนุนตักนที เจ้าเขื่อน ต้นน้ำ หันมาเห็นอานอนหนุนตักคนเป็นน้าก็เอ่ยถามตามประสาเด็ก
"อาพงศ์ง่วงนอนหรอฮะ"
"ใช่ อาง่วงเลยยืมตักน้าที"
สบสายตากันอยู่เงียบๆ นทีหันหน้าอมยิ้มแล้วเสมองไปที่อื่น เมื่อคนที่สบตาด้วยจ้องเอาเป็นเอาตาย
ESTÁS LEYENDO
ตกบ่วงรักเชฟสุดหล่อ
Romanceฉัน นที! ไม่มีทางรักนาย! ผมจะคอยดู... [กำลังอยู่ในช่วงรีไรท์นะคะ ^^ ]