คอนเนอร์พลาดการออกหาเสบียงกับพ่อและน้องชายเพราะเอลตันไม่ยอมปลุก มันน่าน้อยใจเหมือนกันที่พ่อกับน้องพยายามกันเขาออกจากอะไรก็ตามที่พวกเขาคิดว่ามันเสี่ยงอันตราย เกิดเป็นโอเมก้าได้รับสิทธิพิเศษและการถะนุถนอมจากทั้งครอบครัวและรัฐบาลมันก็ดีอยู่หรอก แต่กลายเป็นว่าเขาถูกกีดกันจากหลายๆงานเพียงเพราะว่าเป็นโอเมก้า ยิ่งตอนนี้รัฐบาลล่มสลาย ครอบครัวเขาก็ดูแลเขาเป็นไข่ในหิน เขาเข้าใจความเป็นห่วงของครอบครัวนะ แต่มันมากเกินไปจนเขาอึดอัด เขาไม่ได้ฮีทตลอดเวลาสักหน่อย
ตำรวจหนุ่มแต่งตัวเสร็จก็ลงไปดูในคอกเลี้ยงสัตว์ และพบว่าทั้งวัว ไก่ หมู ได้รับอาหารหมดแล้ว ยิ่งทำให้เขารู้สึกไร้ประโยชน์ไปอีก เขาจึงเดินไปที่พื้นที่แปลงผัก ก็เห็นดินแฉะหมดแล้ว ไกลออกไปเขาเห็นราล์ฟกำลังเต้นรำกับหุ่นไล่กา ดูจะสนุกสนานอยู่คนเดียว ไม่กวนจะดีกว่า เขาเลือกจะเดินเข้าไปในเรือนกระจก เผื่อผลไม้ในนั้นโตพอจะกินได้ก็จะเด็ดมากินให้หายคอแห้งสักผล
เขาเปิดประตูเรือนกระจกเข้าไป ไม่เห็นใครเลย กลิ่นดินชื้นๆอบอวลขึ้นมา เขาเห็นต้นส้ม แต่ผลมันยังไม่โตพอจะกินได้ จึงละสายตาไปหาอย่างอื่น เห็นต้นเกรปฟรุตที่สุดทาง เขาเดินตรงไป แต่เมื่อใกล้ขึ้นเรื่อยๆเขากลับได้ยินเสียงแปลกๆ
รูเพิร์ตไม่ชอบการอยู่ท่ามกลางผู้คนเยอะๆมาแต่ไหนแต่ไร เมื่อมีผู้อยู่อาศัยจำนวนมากแบบนี้ เขาจึงเลือกที่จะปลีกวิเวก หลังการดูแลพืชผลในช่วงเช้า เขากลับเข้ามานั่งในเรือนกระจก เด็ดเกรปฟรุตที่สุกดีแล้วมาแกะกิน แต่พอเขาเห็นเนื้อในสีชมพูของมันแล้ว เขากลับคิดถึงเรื่องเมื่อ 3 สัปดาห์ก่อน หลังคอนเนอร์หายไข้ก็มาขอบคุณเขา แล้วก็ไม่ค่อยได้คุยกันอีกเลยหลังจากนั้น อันที่จริงเขาเป็นฝ่ายหลบหน้าด้วยนั่นแหละ ก่อนนี้เขาดูแลตัวเองได้มาตลอด แต่พอได้ช่วยคอนเนอร์ตอนฮีท... เขากลับรู้สึกกระหายมากกว่านั้นทุกครั้งที่มองอีกฝ่าย มันไม่ดีเอาเสียเลย
VOUS LISEZ
DBH Fanfic : ยามเมื่อโลกาดับแสง
Fanfictionหลังสงครามโลกครั้งที่ 3 โลกก็เข้าสู่หายนะ มนุษย์ที่เหลือน้อยนิดต้องดิ้นรนเอาตัวรอดจากมนุษย์ด้วยกันเอง มาร์คัส อดีตนายทหารที่เป็นอัลฟ่า ผู้นำกลุ่มเจริโกพา300กว่าชีวิตมุ่งสู่ดินแดนในแมกไม้ แต่ทันทีที่เขาไปถึงที่หมาย กลับพบว่าอาคารที่ตนต้องการมี ไซม่อน...