"ฉันยังไม่ได้สั่งให้พูด!" ลำดับห้าโต้เสียงแข็ง ส่วนบากัสหน้าขึ้นสีเพราะถูกผมเหน็บแนมอย่างจงใจ
"เธอรู้ใช่ไหมว่าอาวุธถูกสร้างขึ้นเพื่อสังหาร สิ่งที่เกิดขึ้นตรงสนามหญ้าคือเหตุผลหนึ่งซึ่งทำให้ต้องบัญญัติกฏการใช้อาวุธขึ้น เพราะถ้าอาวุธร้ายแรงตกไปอยู่ในมือของคนที่ใช้งานมันไม่เป็น นอกจากอาจคร่าชีวิตตนเองแล้ว มันยังอาจคร่าชีวิตผู้บริสุทธิ์คนอื่นอีกด้วย ถ้าในตอนแรกเธอเลือกจะไม่รับคำท้า ไม่ยอมหยิบอาวุธ ก็คงไม่ต้องมีใครพบกับความเสี่ยง" ลำดับห้าพูดจบก็ระบายลมหายใจออกช้าๆ "ผู้สอบสวนจงลงบันทึก.. ไม่มีเหตุให้ต้องลดหย่อนโทษ"
ชายชรามองหน้าผมสลับกับหน้าบากัสอยู่พักหนึ่งแล้วจึงหมุนตัวเดินกลับไปยังเกาอี้ของตน ระหว่างนั้นเองลำดับสี่ก็ลุกขึ้นแล้วเดินสวนทางออกมา ผู้ดูแลท่านนี้ค่อยๆ เดินอย่างสง่างาม ร่างกายที่สูงใหญ่นั้นเป็นของชายชราที่มีใบหน้าสุขุม หัวคิ้วบางกว่าหางคิ้ว ผมเขียวแซมขาวชี้ฟูเป็นแผงยาวลงมาถึงหัวไหล่ คางตันดูไม่เข้ากันนักจมูกงองุ้ม มีสิ่งเดียวบนใบหน้าของท่านที่ผิดปกติไป นั่นคือดวงตาเป็นฝ้าขาวโพลนไปทั้งดวง
"อืม.. อืม.." อยู่ดีๆ ลำดับสี่ก็พยักหน้า หลังเดินมาหยุดอยู่ใกล้ผมกับบากัส "คนหนึ่งร้อนร้าย คนหนึ่งลุ่มลึก เป็นคู่ดวลต่างขั้วที่น่าสนใจ"
ผมไม่อาจทราบได้ว่าผู้ไต่สวนรายใหม่พูดถึงอะไร แต่การพูดกับอากาศข้างตัวกำลังบอกใบ้ว่าชายชราท่านนี้เป็นผู้พิการทางสายตา ถึงจะเป็นเช่นนั้น ภายในใจของผมก็รู้สึกปั่นป่วนไปหมดยามถูกจ้องมองด้วยดวงตาสีขาว ความไม่สบายใจเหมือนไม่เป็นส่วนตัวเกิดขึ้นโดยไม่ทราบสาเหตุ ลางสังหรณ์คอยร้องเตือนว่าไม่ควรเสียมารยาทกับกับราชสีห์ยักษ์ตาบอดตรงหน้า ความน่ากลัวนี้ต่างจากลำดับห้า เพราะมันสร้างแรงกดดันขึ้นทั้งๆ ที่ลำดับสี่ยังไม่ได้ทำอะไร
YOU ARE READING
Rubika Legend : อัจฉริยะรูบิคข้ามมิติ
Fantasy"ไนท์" ถูกส่งตัวข้ามมิติไปอย่างไม่เต็มใจ ต้องสูญเสียความทรงจำแทนค่าเดินทาง ซ้ำยังได้ความพิการเป็นเงินทอน เด็กหนุ่มจะทำอย่างไรต่อไป เมื่อสิ่งที่เหลือไว้มีเพียงความเร็วบนปลายนิ้ว