บทที่ 2 : สิ่งที่ตามมาหลังการดวล
เสียงดังแกร่กๆ รัวเร็วระหว่างทำการไขรูบิก้านั้นฟังดูคุ้นหู แต่ความกดดันและตื่นเต้นซึ่งกำลังสะท้านใจกลับแตกต่างออกไปมาก บางทีผมอาจจะคิดผิดที่รับคำท้าของบากัส หนังสือวิชาการดวลด้วยเวทมนตร์ที่เวอร์เน่เอามาให้อ่านฆ่าเวลาเป็นเพียงเล่มแรก ซึ่งมันไม่ได้บอกอะไรมากไปกว่าแค่กติกาเบื้องต้น ระดับความสูสีด้านพลังเวทของผู้ที่จะดวลกัน และปรากฏการณ์ต่างๆ อันอาจเกิดขึ้นในระหว่างการประลองเท่านั้น
โดมเปล่งออร่าพลังงานสีทองที่กำลังครอบผมกับบากัสเอาไว้นี้เรียกว่า "มิติจำกัด" เป็นเขตแดนเวทมนตร์ที่เกิดขึ้นเพื่อยับยั้งความเสียหายซึ่งอาจหลุดออกไปภายนอกเมื่อผู้ประลองทั้งสองต่อสู้กัน หากเทียบกับโลกเดิมมันก็เปรียบได้กับสังเวียนมวย แต่เป็นสังเวียนที่จะไม่ยอมให้มีใครผ่านออกไปหรือฝ่าเข้ามาได้ง่ายๆ มีหน้าที่หลักคือช่วยไม่ให้ผู้ชมนอกโดมได้รับอันตรายจากการถูกลูกหลง โดมนี้จะไม่หายไปจนกว่าจะรู้ผลแพ้ชนะ มันจะยังคงสภาพอยู่ว่าจนกว่าจะมีคนใดคนหนึ่งภายใต้โดมนี้หมดสติไม่ก็ตายในการประลอง
ความเครียดและกดดันเข้าโจมตีจิตใจอย่างหนักหน่วง แม้การเกิดมิติจำกัดจะบอกใบ้ทางอ้อมว่าผมเองก็มีพลังเวทระดับใกล้เคียงกับบากัส แต่หากวัดกันด้วยประสบการณ์แล้วก็คงมีโอกาสน้อยมากที่จะเอาชนะได้ มันคือการตัดสินใจอันโง่เง่าและขาดสติ บางทีการประลองนี้อาจไม่เกิดขึ้นถ้าผมควบคุมอารมณ์ชั่ววูบไว้ได้ อย่างไรก็ตาม ในเมื่อทุกอย่างสายเกินแก้ ความคิดนี้จึงถูกแทนที่ด้วยการพยายามจดจ่ออยู่กับการต่อสู้เบื้องหน้า
เหนือไปกว่าสายตาและปลายนิ้วซึ่งกำลังทำงานตามคำสั่งสมองนั้น สัญชาตญาณการเอาชีวิตรอดได้สั่งให้ผมไขรูบิก้าในมือให้เร็วขึ้นกว่าที่เป็นอยู่ เมื่อรู้ดีว่าอีกฝ่ายกำลังนำห่างอยู่หลายขุม
VOCÊ ESTÁ LENDO
Rubika Legend : อัจฉริยะรูบิคข้ามมิติ
Fantasia"ไนท์" ถูกส่งตัวข้ามมิติไปอย่างไม่เต็มใจ ต้องสูญเสียความทรงจำแทนค่าเดินทาง ซ้ำยังได้ความพิการเป็นเงินทอน เด็กหนุ่มจะทำอย่างไรต่อไป เมื่อสิ่งที่เหลือไว้มีเพียงความเร็วบนปลายนิ้ว