บทที่ 6 : สัญญาในวันเก่า (2)

83 3 0
                                    


การเงยหน้าขึ้นกลายเป็นเรื่องยากเย็นอย่างไม่น่าเชื่อ บอกไม่ถูกเลยว่าทำไมผมถึงไม่อยากเห็นว่าเวอร์เน่กำลังแสดงสีหน้าแบบไหนอยู่ มันคือสิ่งที่แย่ยิ่งกว่าคำว่า "ไม่กล้าสู้หน้า" ไปมาก ลำคอแข็งเกร็งราวกับถูกดามไว้ด้วยแท่งเหล็ก ปลายคางก็หนักอึ้งเหมือนโดนลูกตุ้มห้อยถ่วง รู้สึกได้ถึงความปวดบนหว่างคิ้วยับย่น และคงจะทนทำเป็นทองไม่รู้ร้อนได้อีกไม่นานนัก

บางทีชะตากรรมก็เล่นตลกกับเราราวจะกลั่นแกล้ง พอเห็นว่าผมไม่กล้าเงยหน้าขึ้น ความบังเอิญก็ส่งภาพเสียดแทงหัวใจมาให้ดูกันจะจะ

ขาที่สั่นอยู่น้อยๆ ของเวอร์เน่ทรุดลงในท่านั่งเป็ด แขนเล็กห้อยลงข้างตัว สองมือวางเปะปะอยู่บนต้นขาไร้เรี่ยวแรง ในตอนแรกเด็กสาวยังคงก้มหน้าร้องไห้อยู่ กว่าจะรู้ตัวว่าควรรีบกลับหลังหัน เจ้าของเสียงฟูมฟายก็เงยหน้าขึ้น แล้วสบตาผมด้วยแววตาสื่อถึงความผิดหวังที่สุดเท่าที่คนๆ หนึ่งจะแสดงออกมาได้

ร่างกายของผมพลันแข็งทื่อ มโนจิตเบื้องลึกมองเห็นภาพเทพธิดาในชุดขาวกำลังร่ำไห้ หัวไหล่กลมกลึงด้านซ้ายเปรอะเปื้อนไปด้วยเลือดแดงฉาน ปีกข้างขวากระพืออย่างอ่อนแรง ส่วนปีกซ้ายกลับวางนิ่งอยู่บนพื้นในสภาพยับเยิน

พอก้มลงมอง ก็เห็นภาพมือตัวเองถูกชะโลมไปด้วยของเหลวสีชาด ช่างเป็นการเปรียบเทียบที่เหมาะสมเหลือเกิน เพียงเพื่อจะได้หลุดไปจากเรื่องนี้ ผมยอมทำได้แม้กระทั่งการทำร้ายความรู้สึกของเวอร์เน่ หมดเวลาของความลังเล ในเมื่อมือเปื้อนเลือดไปแล้ว ก็คงต้องเดินไปให้สุดทาง

อย่างน้อยเพื่อไม่ให้ต้องมีอะไรค้างคา
ผมจึงมองสบตาเวอร์เน่ ก่อนจะลงมือเด็ดปีกอีกข้างของเธอ

|ไม่ต้องมายุ่งกับฉันอีก เธอมันน่ารำคาญ ฉันไม่อยากคุยกับเธอแล้ว| คำพูดตัดรอนในโลกแห่งความจริงทำให้เวอร์เน่เงียบอึ้งไปชั่วขณะ น้ำตาซึ่งหยุดไหลไปช่วงสั้นๆ ร่วงพรูเป็นสายอีกครั้ง เสียงฟูมฟายกลับมาดังลั่น พร้อมภาพเด็กสาวโรยแรงหรี่ตาร้องไห้สะอึกสะอื้น

Rubika Legend : อัจฉริยะรูบิคข้ามมิติWhere stories live. Discover now