บทที่ 10 : สะพานเหล็กไวท์ฮันเซ่น (4) [แจ้งข่าวท้ายบท]

69 1 1
                                    

พวกเราใช้เวลาอยู่ในสวนนั้นจนถึงเวลาบ่ายคล้อย ก่อนจะออกไปหาห้องพักบริเวณชานเมือง เพื่อใช้ตั๋วค้างคืนฟรีที่หัวหน้าขบวนคุ้มกันมอบไว้ให้ และกว่าจะหาห้องว่างได้เวลาก็ผ่านไปนานจนเกือบค่ำ สาเหตุของความล่าช้าไม่ได้เกิดขึ้นเพราะโรงแรมในเมืองหลวงมีน้อย แต่เป็นเพราะถูกปฏิเสธจากพนักงานต้อนรับที่แล้วที่เล่า ผมเองไม่ได้แปลกใจอะไรนัก เพราะรู้ดีว่าต่อให้ประชาชนในเมืองหลวงจะสวมใส่เสื้อผ้าหรูหราแค่ไหน ทัศนคติต่อปฏิกูลสงครามของพวกเขา ก็ไม่ต่างอะไรกับชาวเมืองแต่งตัวซอมซ่อในเขตอื่น

นอกจากจะหาที่พักได้ยากแล้ว ยังมีความลำบากอย่างอื่นเกิดขึ้นอีก นั่นคือโรงแรมแห่งนั้นมีห้องว่างเพียงห้องเดียว

ผมไม่คิดมากเรื่องต้องนอนกับผู้หญิง แต่การต้องพักในห้องเดียวกับคู่หมั้นของคนอื่นมันก็มากเกินไป ครั้นจะแยกตัวออกไปนอนที่รถลากคนเดียว ก็กลัวว่าเวอร์เน่จะหาว่ารังเกียจ สุดท้ายก็เลยต้องลงไปขอยืมฟูกจากเจ้าของโรงแรมเอามาปูนอนบนพื้น เป็นค่ำคืนที่ชวนให้รู้สึกกดดัน เพราะขนาดเรื่องคราวก่อนยังส่งผลให้ต้องเกือบตายจากการดวล คราวนี้ถ้าบากัสรู้ว่าผมอยู่ในที่ลับตาคนสองต่อสองกับเวอร์เน่นานข้ามคืน มีหวังจะต้องโดนตั้งค่าหัวจ้างมือสังหารมาฆ่าอย่างแน่นอน

ในเช้าวันเดินทางกลับ ผมกับเวอร์เน่เดินทางไปถึงจุดรวมตัวของนักเดินทางตั้งแต่เช้ามืด เส้นทางกลับไปยังโรงเรียนก็ยังคงเป็นสายเดิม และคงไม่มีอะไรให้ต้องคิดมาก หากคณะของเราไม่ไปเจอเข้ากับกลุ่มผู้เดินทางอีกคณะหนึ่ง ระหว่างรอตรวจค้นอยู่ที่ป้อมด้านในของไวท์ฮันเซ่น

คณะเดินทางอีกกลุ่มใช้ผู้คุ้มกันเป็นหน่วยรบพิเศษทั้งหมด ตรงกลางขบวนมีรถลากติดตั้งกรงเหล็กปรากฏอยู่อย่างเด่นชัด ภายในที่คุมขังมีร่างเด็กหนุ่มผมยาวมัดหางม้ายืนอยู่ พอเห็นว่าใครอยู่ในนั้นเวอร์เน่ก็ผุดลุกขึ้นจนผมต้องลุกตาม

You've reached the end of published parts.

⏰ Last updated: Nov 27, 2018 ⏰

Add this story to your Library to get notified about new parts!

Rubika Legend : อัจฉริยะรูบิคข้ามมิติWhere stories live. Discover now