บทที่ 9 : สัตยาผู้พิทักษ์ (4)

37 1 0
                                    

นับจากตอนที่คุณเกรต้าเดินออกไปจากห้องเวลาก็ผ่านไปแล้วราวสามชั่วโมง ผมยังคงพยายามถ่ายพลังต่อไปแม้รู้ดีว่ามันอาจไม่มีประโยชน์ ระดับความสูงของลูกแก้วในไลฟ์พอยต์เตอร์นั้นลดลงอย่างช้าๆ จนตอนนี้มันอยู่ห่างจากเส้นสีส้มแค่ห้าเซนติเมตร เมื่อพลังชีวิตของเวอร์เน่ใกล้จะเข้าสู่จุดวิกฤติ ร่างกายภายนอกก็เริ่มแสดงอาการผิดปกติออกมาให้เห็น

บนใบหน้าขาวนวลแลดูซีดจางจนผิดธรรมชาติ ความเปล่งปลั่งและเลือดฝาดที่เคยมีก็หายไปจนหมด ริมฝีปากอิ่มชุ่มชื่นถูกแทนที่ด้วยรอยแตกแห้งกรัง พอลองเอามือไปแตะที่ท้องแขนก็พบว่ามันเย็นเฉียบเหมือนน้ำแข็ง

ผมนั่งมองอาการเวอร์เน่ด้วยความทรมานใจ สองมือกำหมัดไว้แน่นและกัดปากตัวเองจนเลือดไหล ด้วยพลังในตอนนี้มันเป็นไม่ได้เลยที่ผมจะสร้างปาฏิหาริย์ และทำได้เพียงสวดภาวนาให้มีใครหรืออะไรก็ตามมาทำให้เด็กสาวตรงหน้าพ้นขีดอันตราย

|ทีนี้นายคงเข้าใจแล้วสินะ ว่าความเห็นแก่ตัวของนายมันทำให้เกิดอะไรขึ้น| เสียงของไอเอ้ลดังแว่วมาจากด้านขวา

ผมสะดุ้งตัวหันไปมองเด็กหนุ่มตาคมในชุดเครื่องแบบนักเรียนที่ฉีกขาดหลายจุด ก่อนจะหันกลับมามองเวอร์เน่เช่นเดิม เมื่อความหดหู่อันหนักหน่วงกลืนความตกใจเมื่อครู่หายไป

|ฉัน... ไม่มีอะไรจะแก้ตัว| ผมว่าพลางเอื้อมมือทั้งสองไปกุมมือเวอร์เน่ไว้

|เสียใจงั้นอยู่เหรอ นายไม่รู้หรอกว่าใครกันแน่ที่ควรต้องเสียใจ| ไอเอ้ลพูดเสียงเรียบ

|หมายความว่าไง|

|วิธีการที่นายเลือกมันผิด ผิดหมดทุกอย่างมาตั้งแต่แรก พอเลือกความโดดเดี่ยวเลยคิดจะแบกรับทุกอย่างเอาไว้คนเดียว การเสียสละโง่ๆ แบบนี้มันไม่ใช่ทางออก แล้วไหล่ของนายมันก็ไม่กว้างพอจะแบกรับทุกอย่างด้วย| ไอเอ้ลกอดอกพูดยาวยืด

Rubika Legend : อัจฉริยะรูบิคข้ามมิติWhere stories live. Discover now