ผมอยากจะเล่าถึงทางเข้ามาหมู่บ้านจัดสรรค์แห่งนี้สักหน่อย คือถ้าเราเข้ามาทางต้นซอยจะเข้าได้สองทางหรือสองซอย ผมเองนั้นมักจะชอบเข้ามาทางซอยด้านซ้ายมากกว่าซอยด้านขวา เพราะทางซอยด้านซ้ายที่มีปั๊มน้ำมันอยู่ทางด้านหน้าปากซอยนั้นจะเดินเข้ามาถึงหมู่บ้านได้เร็วมากกว่าซอยด้านขวาซึ่งเป็นซอยอ้อมลึกแต่ทว่ากลับมีพวกทาวเฮ้าส์หรือตึกแถวต่างๆปลูกสร้างอยู่เกือบตลอดทาง ส่วนซอยด้านซ้ายนั้นค่อนข้างจะเปลี่ยววังเวงอยู่สักหน่อย เพราะยังไม่ค่อยมีสิ่งปลูกสร้างสักเท่าไร สองข้างทางนั้นก็มักจะเต็มไปด้วยต้นหญ้าสูงสลับกับไม้ยืนต้นต่างๆ ยิ่งถ้าใครเข้ามาตอนดึกๆแล้วหลายๆคนจะรู้สึกเลยว่ามันน่ากลัวอยู่ไม่น้อย แถมยังมีต้นโพธิ์ขนาดใหญ่ต้นหนึ่งขึ้นอยู่ใกล้ๆริมทางด้วยก็ยิ่งทำให้บริเวณนี้ดูลึกลับแปลกๆตั้งแต่แรกเห็นเลยทีเดียว
ผ่านมาเกือบอาทิตย์ หลังจากที่ผมได้คุยกับจัน เหตุการณ์ต่างๆก็ดูเงียบสงบเหมือนไม่เคยมีอะไรเคยเกิดขึ้นมาก่อน ราวกับว่าเรื่องราวที่ผมได้คุยกับจันนั้นเป็นเรื่องที่อุปทานกันไปเอง
จนกระทั่งคืนนั้น คืนที่ผมเพิ่งเลิกงานกลับมาจากสำนักพิมพ์ตอนดึก อยู่ๆลมหอบหนึ่งก็พัดกรรโชกลงมาทางผม เป็นลมยามดึกที่ไม่รู้ว่าพัดมาจากทางไหน ต้นไม้ใบหญ้าข้างทางนั้นก็เอนไหวไปมาเสียงดังซู่ๆซ่าๆไปตามๆกัน
ผมต้องรีบเอามือป้องตาเพราะลมพวกนี้ได้พัดหอบเอาฝุ่นถุลีบนพื้นถนนฟุ้งขึ้นมาเต็มไปหมด แต่ครู่เดียวลมก็สงบลง ผมจึงรีบเดินต่อไปเพราะอีกสักร้อยเมตรก็จะถึงบ้านแล้ว แต่แล้วผมก็ต้องชงักเท้าลงเมื่อสายตาผมเหลือบไปเห็นอะไรบางอย่างตะคุ่มๆอยู่ที่ใต้ต้นโพธิ์ที่ขึ้นอยู่ริมถนนด้านซ้ายมือนั้น
ผมขยี้ตา เพราะความรู้สึกบอกผมว่าเหมือนจะเห็นมีใครสักคนมายืนอยู่ที่ใต้ต้นโพธิ์ แต่ทว่ามุมที่ผมมองไปนี้เป็นมุมย้อนแสงจากแสงจันทร์ ทำให้มองเห็นแค่เป็นเงามืดๆเท่านั้น แต่หลังจากที่ผมขยี้ตาเพราะไม่แน่ใจในสิ่งที่เห็นแล้ว ผมก็กลับไม่เห็นใครหรืออะไรอยู่ณ.ที่ตรงนั้นเลย ผมจึงคิดว่าสงสัยเพราะลมพวกนั้นได้พัดเอาผงธุลีใส่ตาผม เลยทำให้ผมมองอะไรผิดเพี้ยนไปแน่ๆ จากนั้นผมก็เลยรีบเดินต่อไป
แต่ขณะที่ผมเดินผ่านต้นโพธิ์ไปได้ไม่ถึงสิบเก้า ประะสาทสัมผัสบางอย่างของผมก็กลับรู้สึกแปลกๆ จนทำให้ผมต้องรีบหันกลับไปมองที่ใต้ต้นโพธิ์นั้นอีกครั้ง...
และจังหวะนั้นเอง ผมก็แทบช็อกกับสิ่งที่เห็น...!
ท่ามกลางแสงจันทร์ของคืนเดือนหงายที่ส่องลอดทะลุไปที่ใต้ต้นโพธิ์นั้น ผมก็ได้เห็นสิ่งนั้นได้อย่างชัดเจน สิ่งที่ผมกำลังสงสัยว่าสิ่งนั้นเป็น'คน' หรืออะไรกันแน่...
ใบหน้าที่กระทบกับแสงจากพระจันทร์เต็มดวงนั้นเป็นใบหน้าของผู้ชายคนหนึ่ง เขายืนหันหน้ามาทางผมด้วยกิริยาสงบนิ่ง และที่วงหน้าของเขานั้นก็เต็มไปด้วยหนวดเคราอันรกครึ้ม ส่วนมือทั้งสองของเขาก็ได้ปล่อยนิ่งอยู่ข้างลำตัว แต่เมื่อสายตาของผมเลื่อนไปจับที่แขนทั้งสองของเขานั้น... ผมก็แทบช็อกไปอีกครั้ง !
'คุณ.. พระ...!' ผมอุทานในใจ ก็ที่ใต้ขอบเสื้อแขนสั้นสีขาวที่เขาสวมอยู่นั้น มันเต็มไปด้วยขนรุงรังตั้งแต่แขนท่อนบนลงไปถึงแขนท่อนล่างและทอดยาวไปถึงหลังมือ...
หลังมือที่เต็มไปด้วยขนอันน่ากลัว !
หัวใจของผมตอนนั้นแทบจะหยุดเต้นไปในทันที แล้วผมก็ถอยหลังกรูดไปโดยไม่รู้สึกตัว
"ม๊าวววว !! จู่ๆแมวดำตัวหนึ่งก็กระโดดลงมาจากต้นไม้ริมถนนด้านขวามือ มันพุ่งผ่านหน้าผมไปอย่างรวดเร็ว และความตกใจก็ทำให้ผมรีบมองไปที่ตัวมัน และก็ได้เห็นมันกระโจนลงไปบนพื้นถนนก่อนที่จะวิ่งหายเข้าไปในป่าหญ้าฝั่งตรงข้าม
แล้วผมก็รีบดึงสติกลับมาโดยเร็ว แต่ขณะที่ผมรีบหันกลับไปมองที่ใต้ต้นโพธิ์ ผมก็ถึงกับแทบช็อคไปอีกครั้ง...!
คุณพระช่วย...! แค่เพียงผมตกใจไปกับแมวดำตัวนั้นเพียงวูบเดียว เขาคนนั้นที่ยืนอยู่ใต้ต้นโพธิ์ก็หายสาปสูญไปแล้ว !
ขนบนแขนทั้งสองข้างของผมยามนั้นก็แย่งกันลุกชันกรูเกรียวขึ้นมา...!
เขาหายไปไหน...? หายไปได้ยังไง...? แค่เพียงพริบตาเดียวที่ผมตกใจหันไปดูแมว แล้วเขาก็หายไปเฉยๆ...? นี่เขาเป็นคน หรือว่าเขาเป็น... ?!
KAMU SEDANG MEMBACA
สืบสู้ผี (ภาค 1 -2 )
Misteri / Thrillerนิยายเรื่องนี้เคยลงไว้ที่เว็บอื่นมาบ้าง เรื่องนี้ไม่ใช่เรื่องสยองขวัญซะทีเดียว แต่เป็นเรื่องของการสืบค้นเรื่องลึกลับของวิญญาณ พูดได้ว่าอาจจะเป็นแนวนักสืบประเภทจิตวิญญาณก็ว่าได้ครับ (เรื่องย่อ) กิตติเป็นนักเขียนอิสระและคอลัมนิสต์ในสำนักพิมพ...