ก่อนที่ผมกับจันจะตกอกตกใจอะไรไปมากกว่านั้น เราทั้งสองก็อุทานออกมาแทบจะพร้อมกันทันที
"พี่เมฆ...!"
หนึ่งในคนทั้งสามที่มายืนค้ำหัวเราสองคนนี้กลับเป็นพี่เมฆจริงๆ
"อย่ามัวตะลึงกันอยู่สิ... รีบอ้อมเข้าไปซ่อนข้างหลังเร็วๆเข้า !" พี่เมฆที่ยืนอยู่ตรงกลางเหนือโขดหินใหญ่สั่งออกมาเสียงดังฟังชัด จนผมต้องรีบหันไปดึงมือจันที่ยังยืนตะลึงค้างอยู่เพื่อพาวิ่งอ้อมเข้าไปที่หลังโขดหินนั้นทันที
แล้วผมก็ได้เห็นท่านจ้าวแห่งมิตทราห์กำลังยืนอยู่ในวงอารักขาของทหารแห่งมิตทราห์ที่ยังมีเหลืออยู่ประมาณยี่สิบคนณ.ที่หลังโขดหินนั้น และเมื่อท่านจ้าวได้เห็นผมกับจันแล้ว ท่านจ้าวก็รีบแหวกวงล้อมออกมาที่ผมทันที
"อา... ท่านทั้งสองยังปลอดภัยกันดี ข้าดีใจกับพวกท่านจริงๆ...!"
ท่านจ้าวพูดขึ้นอย่างตื่นเต้น และใบหน้าของท่านจ้าวก็ดูจะไม่ได้อยู่ในความเคร่งเครียดนัก นับว่าท่านจ้าวเป็นผู้ที่ควบคุมอารมณ์ได้ดีโดยที่ไม่ได้แสดงอาการตื่นตระหนกกับสถานการณ์แห่งความระทึกในขณะนี้
และก่อนที่ผมจะพูดตอบกับท่านจ้าว เสียงของพี่เมฆก็ดังมาจากบนโขดหิน
"รีบเข้าไปหลบที่ในถ้ำกับท่านจ้าวก่อน ตอนนี้สิงห์กับมูติชาห์กำลังวิ่งมาทางนี้แล้ว พี่กับทหารฝีมือดีสองคนนี่จะคอยยิงธนูช่วยสกัดพวกทหารทรยศที่กำลังวิ่งตามเขาสองคนเอง !"
แล้วผมก็ได้สังเกตเห็นว่า ที่บนไหล่ของพี่เมฆนั้นก็ได้สะพายกระบอกหรือแล่งธนูไว้ โดยที่ในมือของเขาก็ยังมีคันธนูที่กำลังเริ่มใช้ยิงไปทางด้านหน้าอย่างแคล่วคล่องราวกับว่าเขาได้เคยเป็นนักกีฬายิงธนูชั้นโปรหรือเคยเป็นหนึ่งในมือยิงธนูชั้นดีของท่านจ้าวมาก่อน ในขณะที่ทหารมือยิงธนูของท่านจ้าวที่ได้ยืนอยู่บนโขดหินทางด้านซ้ายและขวาของพี่เมฆ ต่างก็ช่วยกันระดมยิงไปทางด้านหน้ากันอย่างถี่ยิบเช่นกัน
YOU ARE READING
สืบสู้ผี (ภาค 1 -2 )
Mystery / Thrillerนิยายเรื่องนี้เคยลงไว้ที่เว็บอื่นมาบ้าง เรื่องนี้ไม่ใช่เรื่องสยองขวัญซะทีเดียว แต่เป็นเรื่องของการสืบค้นเรื่องลึกลับของวิญญาณ พูดได้ว่าอาจจะเป็นแนวนักสืบประเภทจิตวิญญาณก็ว่าได้ครับ (เรื่องย่อ) กิตติเป็นนักเขียนอิสระและคอลัมนิสต์ในสำนักพิมพ...