ผมหันไปมองหน้าไอริณกับพี่เมฆที่ต่างก็มีสีหน้าประหลาดใจหรือผิดคาดกับสิ่งที่ท่านจ้าวได้ตอบพวกเรามา
แล้วไอริณก็ถามท่านจ้าวต่อไป "ประตูศิลาที่มีช่องใขกุญแจที่ใหญ่ที่สุดงั้นหรือคะท่านจ้าว... หมายความว่า มันคงจะแตกต่างจากประตูศิลาอื่นๆอย่างนั้นใช่หรือปล่าวคะ ?"
"ย่อมแตกต่างแน่นอน..." ท่านจ้าวพยักหน้าเนิบๆ "มันแตกต่างทั้งขนาดความกว้างใหญ่ของประตูและช่องไขกุญแจที่ดูใหญ่ผิดปกติกว่าประตูศิลาอื่นๆที่ทำมาให้ใช้คู่กับดอกกุญแจอาถรรพ์ต่างๆที่มีอยู่ด้วยกันทั้งสิ้น 12 ดอกนั่น..."
ท่านจ้าวหยุดไปนิดหนึ่งก่อนที่จะกล่าวต่อช้าๆอย่างเน้นเสียง
"เพราะว่า ประตูศิลาบานนี้ก็คือ ประตูศิลาบานที่ 13 ที่ต้องใช้คู่กับกุญแจอาถรรพ์ดอกที่ 13 โดยเฉพาะเพียงอย่างเดียวเท่านั้น.."
อะไรนะ...? ประตูศิลาบานที่ 13 ที่ต้องใช้คู่กับดอกกุญแจอาถรรพ์ดอกที่ 13 โดยเฉพาะเพียงอย่างเดียวเหรอ ?!
ผมทวนประโยคเหล่านั้นด้วยความสงสัยอยู่ในใจอย่างที่สุด ขณะที่ก็สังเกตุเห็นสีหน้าของไอริณกับพี่เมฆที่ดูเหมือนกับว่าจะประหลาดใจหรือพิศวงงงงวยกันหนักยิ่งขึ้นกว่าเดิมซะอีก
"ขอถามหน่อยนะท่าน... " พี่เมฆเอ่ยขึ้นอีกครั้ง "หากไอ้ประตูศิลาบานใหญ่ที่พวกท่านได้ลงทุนขนย้ายกันมาไว้ยังยอดเขาแห่งนี้กันด้วยความยากลำบาก และยังจะต้องมาคอยปกปักษ์รักษามันไว้ด้วยชีวิตของพวกท่านทั้งหมดนั้นมีความสำคัญถึงอย่างที่สุดอย่างนี้แล้ว ก็แล้วไอ้เจ้าดอกกุญแจที่ว่าเป็นดอกกุญแจดอกที่ 13 ที่ต้องใช้คู่กับมันนั้นล่ะ มันจะมีความสำคัญถึงขนาดไหนกันล่ะท่านจ้าว.?"
"มันก็ต้องมีความสำคัญถึงอย่างที่สุดตามกันอยู่แล้ว ท่านผู้มีในตาตี่เล็ก เพราะของสองสิ่งนี้ได้ถูกสร้างขึ้นมาคู่กัน มันจะต้องใช่ร่วมกันเท่านั้นจึงจะเกิดผล..." มูติชาห์กลับเป็นผู้ตอบคำถามนี้แทนบิดา และคำว่าตาตี่เล็กนั่นก็ทำให้คิ้วของพี่เมฆถึงกับกระตุกขึ้นข้างหนึ่งทันที
BẠN ĐANG ĐỌC
สืบสู้ผี (ภาค 1 -2 )
Bí ẩn / Giật gânนิยายเรื่องนี้เคยลงไว้ที่เว็บอื่นมาบ้าง เรื่องนี้ไม่ใช่เรื่องสยองขวัญซะทีเดียว แต่เป็นเรื่องของการสืบค้นเรื่องลึกลับของวิญญาณ พูดได้ว่าอาจจะเป็นแนวนักสืบประเภทจิตวิญญาณก็ว่าได้ครับ (เรื่องย่อ) กิตติเป็นนักเขียนอิสระและคอลัมนิสต์ในสำนักพิมพ...